หมวดหมู่ทั้งหมด
เมนู
หมวดหมู่

พระราหู รุ่นแรก หลวงปู่ชิต

พระราหู รุ่นแรก หลวงปู่ชิต เนื้อกะลาตาเดียว หลังอุดมวลสารติดรูปเหมือน จำนวนการจัดสร้าง 9 องค์

กะลาตาเดียวนี้ ได้มีลูกศิษย์นำมาถวาย 1 ลูก พร้อมแกะเป็นรูปพระราหู ได้จำนวน 9 องค์พอดี หลวงปู่จึงได้นำมาอุดมวลสารพร้อมรูปเหมือน ทั้งนี้หลวงปู่ได้ทาทอง เพื่อเป็นเคล็ดให้ผู้ที่บูชาหาเงินหาทอง ค้าข้ายคล่อง เงินทองไหลมาไม่ขาดสาย

พระราหู หรือ ราหูอมจันทร์ ราหูอมตะวัน ตำนานความเชื่อความศรัทธาที่มีมายาวนานมีอารยธรรมหลายแห่งมีการกล่าวถึงและมีสัญลักษณะของราหูนี้มากมายไม่ว่าจะเป็นตำนานโหราศาสตร์ของไทย ตำราพระเวทย์ ตำนานราหูของล้านนาโบราณ หรือแม้แต่รูปสัญลักษณ์ของเทวสถานขอมโบราณก็มีการสร้างสัญลักษณ์ของราหูไว้ตามปราสาทต่างๆ

ราหู หรือ เทพราหูผู้เรืองอิทธิฤทธิ์ ในคติความเชื่อทางด้านเทพมีประวัติและตำนานราหูมีที่มายาวนานคู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทย มาตั้งแต่ยุคโบราณกาล ที่ปรากฏเป็นหลักฐานที่มีบันทึกไว้เด่นชัดคือ หนังสือไตรภูมิพระร่วง ที่พญาลิไท พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัยได้เขียนเอาไว้เป็นคัมภีร์โบราณเก่าแก่ของไทย ได้กล่าวบรรยายถึงราหูไว้ดังนี้ พระราหูอาศัยอยู่ในดินแดนที่เรียกว่า อุตรกุรุทวีป หนึ่งเป็นทวีปหนึ่งในสี่ ของชาวพุทธเป็นแดนลี้ลับอีกมิติหนึ่งซึ่งมนุษย์ ไม่สามารถจะเข้าไปได้ ผู้ที่จะเข้าไปได้ หรือเห็นได้ต้องเป็นที่มีญานวิเศษ หรือสำเร็จฌานสมาบัติเท่านั้น ในดินแดนนี้มีพญาอสูรสองตนผู้ เป็นใหญ่ ตนหนึ่งคือพระราหู อีกตนหนึ่งคือท้าวพรหมทัต พระราหูนั้นมีร่างกายใหญ่และมีกำลัง มากกว่าเหล่าอสูรทั้งหลาย ยามเมื่อพระราหูเห็นพระอาทิตย์ก็ดีพระจันทร์ก็ดีมีความสุกสว่างครั้ง ใดมักจะมีใจโกรธแค้น ต้องขึ้นไปบนภูเขายุคันธรจากนั้นก็จะอ้าปากอมพระอาทิตย์ หรือพระจันทร์ไว้เสียจนกว่าจะเป็นที่พอใจจึงคายออกมา เป็นเหตุให้เกิดสุริยุปราคา ดังนี้เป็นตำนานราหูที่ บันทึกไว้ในไตรภูมิพระร่วงซึ่งเป็นคัมภีร์ทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย

ประวัติตวามเป็นมาของพระราหูในคัมภีร์อนาคตวงศ์ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ได้เขียนบันทึกไว้ครั้งพุทธกาล มีอยู่ว่า พระสารีบุตรได้กราบทูลขอให้พระสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้ทรงแสดงเรื่องพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรุ้ใน อนาคตกาลอันไกลโพ้น ซึ่งสมเด็จพระสัพพัญญูก็ได้ทรงกล่าวถึงการจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ของพระอสุริทราหูเอาไว้ว่า ในกาลเมื่อสิ้นพระศาสนาของพระยามาราธิราช แล้วโลกจะสูญจาก การมีพระพุทธเจ้านานถึง 8 กัล์ป แล้วแผ่นดินก็ตั้งขึ้นมาใหม่ได้แสนแผ่นดิน แผ่นดินนั้นก็สูญ เปล่าเป็นสูญยกัล์ป หาได้มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติไม่ เมื่อสุญญกัล์ปได้แสนแผ่นดินล่วงไปแล้ว จึงบังเกิดแผ่นดินขึ้นมา มีชือว่ามัณทกัป เป็นยุคสมัยที่ทรงพระพุทธเข้าได้ 2 พระองค์ หนึ่งในนั้น  คือพระอสุรินทราหู และอีกพระองค์หนึ่งคือ โสณพราห์ม โดยพระยาอสุรินทราหูนั้นจะได้ตตรัสรู้ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน โดยจะมีพระนามว่า พระนารทะ มีพระองค์สูง 20 ศอก มีพระชนมายุยืนได้หมื่นปีเป็นอายุขัย มีต้นไม้จันทร์เป็นพระศรีมหาโพธิ์ (กล่าวโดยย่อ)

การบูชาพระราหู เป็นคติความเชื่ออย่างหนึ่งที่นิยมทำกัน เพราะในทางโหราศาสตร์ พระราหู ถือเป็นหนึ่งในเทพเทวดานำเคราะห์องค์หนึ่งที่ให้คุณให้โทษกับดวงชะตาของคน จึงมีการจัดไหว้บวงสรวงพระราหูเพื่อความเป็นสิริมงคลและหวังผลในด้านต่างๆโดย การบูชาพระราหูนั้นจะบูชากันในวันพุธ เวลากลางคืน เพราะถือว่าเป็นวันและเวลาของพระราหู เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ผู้บูชามักจะจัดของบูชาของดำ 8 อย่าง เพราะเชื่อว่าพระราหูนั้นท่านมีกายเป็นสีดำ และเลข 8 ก็มาจากกำลังของวัน หรือลำดับของพระราหูที่เป็นเทวดานพเคราะห์องค์ที่ 8 ใน 9 องค์ของเทวดานพเคราะห์ทั้งหมด

ของดำทั้ง 8 อย่างนั้นไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะเป็นอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่มีสีดำอาทิเช่น ข้าวเหนียวดำ ถ้่วดำ งาดำ ผลไม้ที่มีสีดำ เหล้าดำ กาแฟดำ หรือเครื่องดื่มที่มีสีดำ ขนมเปียกปูสีดำ หรือขนมและอาหารที่ทำให้มีสีดำก็ได้หมด

อิทธิอำนาจของเครื่องรางประเภทราหู ดังที่ได้พรรณาไว้ในตำรากล่าวโดยสรุปมีดังนี้
1.พลิกหนุนดวงชะตาราศีกลับร้ายกลายเป็นดี เสริมดวงหนุนดวงชะตา เสริมฐานะและเสริมเป็นความมงคลต่างๆในชีวิต
2.ให้อิทธิคุณอำนาจทางด้านแคล้วคลาดกันภัย
3.โภคทรัพย์โชคลาภ
4.เมตตามหานิยม

  กะลาตาเดียวที่ผ่านพิธีกรรมที่สมบูรณ์จริงๆ มาแล้ว ในตำราทักษามหาพยากรณ์นั้นได้กล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลใดก็ตาม ถูกพระราหูเสวยอายุหรือพระราหูแทรก ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคราะห์ต่างๆ  เพราะพระราหูนั้นเป็นเทพอสูร เป็นเทพบาปเคราะห์ แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้น การเสวยอายุหรือแทรกอายุไป ก็ยังแผลงฤทธิ์ตอนเข้าหรือตอนออกด้วย ในทักษาจึงกำหนดไว้ว่า เมื่อพระราหูเสวยอายุหรือแทรก จะต้องทำพิธีต้อนรับพระราหูและตอนที่พระราหูจรออกต้องทำพิธีส่งพระราหู หาไม่แล้วจะเดือดร้อนจนไม่อาจประคองตัวได้ ถึงกับล้มละลายหรือประสบกับพิบัติ ต่างๆ กับตัวเอง หรือบุคคลรอบข้างได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่บุพราจารย์โบราณ ใช้บรรเทาฤทธิ์ของราหูได้เป็นอย่างดี คือ กะลาตาเดียวนั่นเอง